ความเครียด
คือ สภาวะที่เกิดขึ้นกับอารมณ์ และความรู้สึก ทั้งเมื่อต้องเผชิญกับปัญหาต่างๆ
ที่เข้ามาในชีวิต หรือในบางครั้งอาจไม่ทราบว่าเกิดจากสาเหตุใด
แต่มีผลทำให้เกิดความไม่สบายใจ กดดัน วิตกกังวล หวาดกลัว ไม่มีความสุข
ซึ่งต่างก็เป็นผลในทางลบที่ทำให้เกิดอันตรายต่อคนเรา ดังนี้
1.ด้านร่างกาย เมื่อเกิดความเครียดจะทำให้ต่อมหมวกไตหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอล (cortisol) เพิ่มขึ้น ส่งผลทำให้เกิดอาการป่วยทางกายหลายอย่าง เช่น อ่อนเพลีย ไม่มีแรง ปวดหลัง ปวดหัว คลื่นไส้ อาเจียน ซึ่งอาจทำให้เกิดเป็นโรคต่างๆ ตามมา ทั้งโรคแผลในกระเพาะอาหาร โรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง นอกจากนี้ ความเครียดยังทำให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายทำงานได้ไม่เต็มที่ ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำเกิดโรคหอบหืดหรือโรคภูมิแพ้ต่างๆ และยังเคยมีกรณีที่ผู้สูงอายุเกิดอาการช็อคเป็นลมเสียชีวิตเนื่องด้วยตกอยู่ในภาวะเครียดอย่างรุนแรง 2.ด้านพฤติกรรม เมื่อต้องตกอยู่ในภาวะเครียดอย่างรุนแรงจะเกิดการเปลี่ยนแปลงของสารเคมีบางอย่างในสมอง ที่ส่งผลให้บุคคลมีพฤติกรรมเปลี่ยนแปลงไปในทางลบ เช่น ซึมเศร้า ปลีกตัวออกจากสังคม บางรายอาจมีพฤติกรรมก้าวร้าว ทำลายสิ่งของ ทำร้ายผู้อื่น หรือหากมีอาการหนักมากอาจถึงขนาดคิดสั้นฆ่าตัวตาย ทำร้ายตนเองหรือทำร้ายผู้อื่น 3.ด้านอารมณ์และจิตใจ ความเครียดทำให้อารมณ์สับสน หงุดหงิดโมโหง่าย วิตกกังวล มองโลกในแง่ร้าย และเมื่อมีปัญหาทางด้านอารมณ์สะสมไปนานๆ เข้า ก็จะส่งผลโดยตรงต่อสภาวะทางด้านจิตใจ ทำให้กลายเป็นคนที่มีปัญหาทางด้านจิตประสาทได้ นอกจากนี้ ความเครียดยังทำให้ความสามารถทางด้านสติปัญญาทั้งในการแก้ปัญหาและทางด้านความจำลดลงอีกด้วย ดังนั้น เมื่อเรารู้แล้วว่าความเครียดส่งผลร้ายอย่างมากมายต่อตัวเราแล้ว หากเริ่มรู้สึกว่าตนเองเครียดก็วิธีกำจัดและคลายเครียดที่สามารถทำได้ด้วยตนเองอย่างง่ายๆ ดังนี้ 1.ระบายความในใจ
คือ การได้ปลดปล่อยอารมณ์ ความคิดและความรู้สึกออกมาภายนอก
ผ่านการแสดงออกต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น
- การพูด การที่เราได้พูดระบายความรู้สึกที่ขุ่นข้องหมองใจของเราเองกับคนสนิท เช่น คนในครอบครัว คนรัก เพื่อนฝูง เป็นวิธีการคลายเครียดที่ดีที่สุด เพราะนอกจากจะทำให้เรารู้สึกผ่อนคลายลงแล้ว เราอาจได้รับคำแนะนำดีๆ ในการแก้ปัญหาชีวิตของเราจากคนที่รักและหวังดีกับเราก็ได้ - การเขียน บางครั้งคนที่มีภาวะเครียดก็อาจไม่อยากพูดคุยกับใคร ดังนั้น อาจใช้การเขียนระบายความรู้สึกใส่กระดาษ ไดอารี หรือเดี๋ยวนี้บางคนก็เลือกที่จะแสดงความรู้สึกผ่านการเขียนทาง blog ทาง facebook ทาง club ใน webpage ต่างๆ ซึ่งนอกจากจะได้ระบายความอัดอั้นแล้ว ยังอาจได้มิตรภาพหรือคำแนะนำดีๆ จากคนที่เราไม่เคยรู้จักก็เป็นได้ 2.ท่องเที่ยว
เมื่อเกิดความเครียด
ไม่ควรเก็บตัวอยู่คนเดียวหรืออยู่ในสภาพแวดล้อมเดิมๆ
วิธีแก้เครียดที่ได้ผลดีที่สุดอีกวิธีหนึ่ง ก็คือ การที่เราได้พาตัวเองออกไปพบเจอสภาพแวดล้อมใหม่ๆ
ที่ไม่จำเจ เช่น ไปเที่ยวต่างจังหวัด ไปดูนิทรรศการ ไปชมการแสดง
ไปเดินเล่นสวนสาธารณะ ไปเดินดูข้าวของตามห้าง
การที่เราได้ออกไปพบเจอสิ่งแปลกใหม่ๆ
หรือได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติจะช่วยทำให้เรามีอารมณ์สดชื่น รู้สึกสนุกสนาน
หายเหนื่อยล้าจากความเครียด
|
|||||
3.ฟังเพลง
มีงานวิจัยมากมายที่สรุปตรงกันว่า
การฟังดนตรีเป็นวิธีการคลายเครียดได้ดี
แต่ให้เลือกบทเพลงหรือดนตรีที่มีลักษณะที่ช่วยคลายเครียดได้ดี เช่น
เพลงบรรเลงแบบ Green Music คือ เพลงบรรเลงที่มีทำนองช้าๆ เบาๆ
ที่บรรเลงโดยเครื่องดนตรีไม่กี่ชิ้น และมีเสียงธรรมชาติประกอบ เช่น เสียงน้ำไหล
เสียงฝนตกเบาๆ เสียงนกร้อง ซึ่งจะช่วยทำให้คลายเครียดได้เป็นอย่างดีทีเดียว
ช่วงเครียดไม่ควรเลือกฟังเพลงที่มีเนื้อหาทำร้ายความรู้สึก
หรือจิตใจหรือเพลงที่มีทำนองดนตรีที่รุนแรงเพราะจะยิ่งทำให้เครียดมากขึ้นไปอีก
4.ดูหนังดูละคร
ละคร หรือหนัง
หรือรายการที่มีเนื้อหาเบาสมอง เช่น หนังตลก เกมโชว์ การ์ตูนเด็กๆ
ช่วยทำให้ผ่อนคลายความเครียดได้ เพราะการได้ยิ้ม ได้หัวเราะ
จะทำให้ร่างกายหลั่งสารแห่งความสุขออกมา (เอนโดฟิน)
ซึ่งจะไปช่วยให้อารมณ์ของเราสดชื่นและมีความรู้สึกเป็นสุขมากขึ้น
5.ออกกำลังกาย
การออกกำลังกายให้ประโยชน์หลายอย่างแก่เรา ทั้งให้ร่างกายแข็งแรง
และกำจัดความเครียดได้ด้วย
เพราะการออกกำลังทำให้เราหยุดนึกถึงเรื่องราวที่ทำให้เครียดและกังวลไปได้ชั่วขณะหนึ่ง
และเมื่อใช้เวลากับการออกกำลังกายไปเรื่อยๆ ก็จะทำให้ความเครียดของเราค่อยๆ
บรรเทาไปในที่สุด เพราะโดยปกติแล้วเมื่อคนเราเครียดกล้ามเนื้อต่างๆ
ในร่างกายก็จะหดตัว ตึง และแข็ง ทำให้ไม่สบายกายด้วย
เมื่อเราได้ออกกำลังกายกล้ามเนื้อที่มันตึงอยู่นั้นก็จะคลายลง
ทำให้รู้สึกสบายและมีความสุข จึงขอแนะนำว่าควรออกกำลังกายเบาๆ ไม่ควรออกกำลังกายเพื่อการแข่งขันหรือรุนแรงจนได้รับอันตราย
เพราะนั่นอาจจะเป็นการเพิ่มความเครียดให้คุณอีกทางหนึ่งก็เป็นได้
6.ทำงานอดิเรก
ส่วนใหญ่แล้วคนที่มีภาวะเครียดมักจะเป็นคนที่ต้องจดจ่ออยู่กับสิ่งใดสิ่งหนึ่งมากเกินไป
เช่น จดจ่อกับงาน กับลูก กับคนเจ็บป่วย กับหนี้สินและการเงิน
กับสภาวะแวดล้อมที่ไม่พึงประสงค์ ดังนั้น
การแก้เครียดจึงต้องละจากสิ่งที่จดจ่ออยู่นั้นไปให้ความสนใจกับสิ่งอื่นบ้าง
โดยอาจหางานอดิเรกทำให้เกิดความเพลิดเพลิน เช่น ทำงานศิลปะ ฝึกเล่นเครื่องดนตรี
ปลูกต้นไม้ เลี้ยงสัตว์ ไปนวดหน้านวดตัว แต่งห้องใหม่
งานอดิเรกเหล่านี้สามารถสร้างความสุขให้แก่เราได้
เพราะนอกจากจะทำให้เราเพลิดเพลินแล้ว การได้สร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ
ให้กับชีวิตจะทำให้เราเกิดความภาคภูมิใจในตัวเองด้วย
7.ทำความดี
ไม่ว่าจะเป็นการทำบุญทำทานหรือทำการสงเคราะห์
เป็นสิ่งที่จะช่วยสร้างความสงบสุขให้แก่จิตใจของเรา
บางครั้งคนเราเกิดความเครียดเพราะการงานไม่สำเร็จตามเป้าหมาย
หรือคิดว่าตัวเองด้อยค่าไม่มีสิ่งต่างๆ เหมือนคนอื่นเขา
หรือถูกทำร้ายทางร่างกายหรือจิตใจมา
การที่ได้ทำประโยชน์ให้ผู้อื่นโดยเฉพาะทำกับคนที่เขาบกพร่อง เช่น คนพิการ คนยากจน
คนไร้ญาติขาดมิตร ไร้ที่อยู่อาศัย จะทำให้เราได้เห็นมุมมองอื่นๆ
ในชีวิตที่เราไม่เคยเห็นว่าไม่มีใครสักคนในโลกนี้ที่จะเกิดมาสมบูรณ์พร้อมหรือมีความสุขตลอดเวลา
คนทุกคนย่อมมีปัญหาที่ต้องเผชิญและฝ่าฟันกันไปให้ได้ทุกคน ดังนั้น
หากเครียดหรือมีปัญหาเมื่อใดก็ให้ทำความดีต่อผู้อื่นเพราะจะทำให้เกิดความสุขใจทั้งต่อตัวเราและต่อคนที่เราทำดีด้วย
ความเครียดเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้กับทุกคนไม่เว้นแม้แต่เด็กๆ ดังนั้น อย่ากลัวที่จะเครียด แต่เมื่อใดก็ตามที่เราเริ่มรู้สึกว่าเราเครียดแล้วก็ควรต้องรีบที่จะควบคุมและหาทางเอาความเครียดออกไปจากชีวิตของเราให้ได้อย่างเร็วที่สุด เพราะมันไม่มีประโยชน์กับเรามีแต่จะยังให้เกิดโทษต่างๆ ตามมามากมาย จงเข้มแข็งและอย่ายอมแพ้มัน เมื่อคุณเอาชนะมันได้แล้วพื้นที่ความสุขในชีวิตของคุณจะกลับคืนมา |
วันจันทร์ที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558
ความเครียด
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น